การสั่งสมบาปทำให้เกิดทุกข์ร่ำไป

การสั่งสมบาปทำให้เกิดทุกข์ร่ำไป
“ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว” คำๆนี้เราได้ยินกันอยู่บ่อยๆนะครับ ซึ่งก็ปฏิเสธไม่ได้ เพราะมันเป็นอย่างนั้นจริงๆ ถ้าทำกรรมดี ก็ได้รับผลดี ถ้าทำกรรมชั่ว ก็ย่อมได้รับผลชั่ว เป็นอย่างนี้มาแต่ไหนแต่ไรมา ไม่มีผิดเพี้ยน ไม่มีเปลี่ยนแปลง องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าก็ได้ตรัสยืนยันไว้ว่า
ปาปญฺเจ ปุริโส กยิรา………..น นํ กยิรา ปุนปฺปุนํ
น ตมฺหิ ฉนฺทํ กยิราถ……ทุกฺโข ปาปสฺส อุจฺจโย.
“ถ้าบุรุษพึงทำบาปไซร้ ไม่ควรทำบาปนั้นบ่อย ๆ ไม่ควรทำความพอใจในบาปนั้น เพราะว่า ความสั่งสมบาป เป็นเหตุให้เกิดทุกข์.”
ในชีวิตของคนเราทุก ๆ คน ย่อมจะมีบ้างเป็นบางครั้งบางโอกาสที่พลาดพลั้งเผลอกระทำสิ่งที่เป็นบาปอกุศลลงไป อาจจะเพราะความคะนองก็ดี เพราะความประมาทก็ดี เพราะความหลงผิดก็ดี โดยตั้งใจก็ดี โดยไม่ได้ตั้งใจก็ดี ย่อมจะมีบ้าง หาใช่เรื่องแปลกกระไรไม่
หากแต่ว่าเมื่อเราได้กระทำสิ่งที่ผิดไป ได้กระทำสิ่งที่เป็นบาปอกุศลลงไปแล้วและเรารู้แล้วว่าสิ่งนั้นมันผิด เป็นบาป เป็นอกุศล สิ่งที่เราควรกระทำก็คือ พิจารณาให้เห็นโทษของบาปอกุศลที่เราได้กระทำไปแล้วนั้น พิจารณาให้เห็นทุกข์อันเกิดจากการกระทำนั้น แล้วอย่าปล่อยให้ใจยินดีในบาปนั้น อย่ากระทำบาปนั้นอีก
พยายามอย่างเต็มที่เพื่อจะหลีกเว้นจากการกระทำบาปนั้นอีก เปรียบประหนึ่งว่าเราเคยเผลอจับก้อนถ่านที่ยังแดงอยู่ยังไม่ดับ เรารู้ว่ามันร้อน เราก็ไม่จับมันอีก หลีกเลี่ยงที่จะจับมันอีก เป็นต้น เพราะการสั่งสมบาปโดยการกระทำบาปบ่อย ๆ นั้น พระพุทธองค์ตรัสว่าเป็นเหตุให้เกิดทุกข์ร่ำไป ทั้งในโลกนี้ ทั้งในโลกหน้า.