ทำดีแล้วทำไมไม่ได้ดี?

ทำดีแล้วทำไมไม่ได้ดี?
หลายคนอาจจะสงสัยว่า เราทำความดี ทำไมไม่ได้ดี หรือทำบุญทำกุศลมาโดยตลอด ไม่เคยทำอะไรไม่ดีเลย แต่ทำไมชีวิตถึงไม่ดีเลย มีแต่เรื่องร้าย ๆ เข้ามาไม่หยุดหย่อน ไม่เจริญก้าวหน้า ไม่ร่ำไม่รวย ไม่สุขสบายเหมือนคนอื่นเขา แต่บางคนทำแต่ความชั่ว ทำตัวไม่ดี ทำแต่บาปกรรมมาโดยตลอด แต่ชีวิตเขากลับเจริญเอา ๆ ไม่เห็นได้รับผลของกรรมชั่วเลย จนบางคนอาจจะน้อยใจในโชคชะตา บางคนก็คิดว่า ทำดีได้ดีไม่มีจริง ทำดีได้ดีมีที่ไหน ทำชั่วได้ดีมีถมไป อะไรทำนองนี้
ความจริงไม่ใช่อย่างนั้นหรอกครับ คำสอนของพระพุทธเจ้าที่พระองค์สอนพวกเราว่า “ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว” ยังคงเป็นจริงเสมอ ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน และจะเป็นจริงเช่นนี้ตลอดไป
ไม่มีใครเลยที่ทำดีแล้วไม่ได้รับผลของความดี และก็ไม่มีใครเลยที่ทำความชั่วแล้วไม่ได้รับผลของความชั่ว ทุกคนได้รับผลแห่งการกระทำของตนเองทั้งหมด คนทำดีก็ได้รับผลดี คนทำความชั่วก็ได้รับผลชั่ว
แต่มีบางอย่างที่เราจะต้องทำคความเข้าใจอีกนิด นั่นคือเรื่องของการให้ผลของกรรม กรรมมันก็มีทั้งกรรมในอดีตและกรรมในปัจจุบัน มีทั้งกรรมที่ทำไว้ในชาติก่อน ๆ ที่ให้ผลยังไม่หมด แล้วก็กรรมที่เพิ่งสร้างขึ้นใหม่ในชาตินี้
พุทธศาสนาสอนเรื่องของการเวียนว่ายตายเกิด คือเราทุกคนมีอดีตชาติ เมื่อมีอดีตชาติ ก็ย่อมต้องมีกรรมเก่าที่เคยทำไว้ในอดีตชาติ และเราก็ไม่รู้เสียด้วยสิว่า ในอดีตชาตินั้น เราเคยทำกรรมอะไรเอาไว้บ้าง ระหว่างกรรมดีกับกับชั่ว เราทำกรรมประเภทใดไว้มากกว่ากัน อันนี้เราไม่รู้เลย
แต่ไม่ว่าเราจะรู้หรือไม่รู้ก็ตาม กรรมเก่าที่เคยทำไว้นั้น ก็ตามมาให้ผลในปัจจุบันนี้อยู่ดี กรรมดีที่เคยทำไว้ จะให้ผลที่ดี เป็นความสุขความเจริญ ส่วนกรรมชั่วที่เคยสร้างไว้ จะให้ผลที่ไม่ดี เป็นความทุกข์ยากลำบาก หรือความเดือดร้อน
และนั่นก็คือเหตุผลที่ว่า ทำไมในปัจจุบัน คนบางคนทำความดีมาโดยตลอด แต่ไม่ได้รับผลของความดีเลย แต่คนบางคนทำความชั่วมาโดยตลอด กลับมีความสุขความเจริญ ไม่ได้รับผลของความชั่วเลย หรือบางคนก็ไม่ได้ทำอะไรเลย ความดีก็ไม่เห็นทำ ความชั่วก็ไม่เห็นทำ แต่ชีวิตเขาดีจังเลย บางคนก็ไม่เห็นทำอะไรเหมือนกัน แต่ชีวิตก็ตกต่ำ ลำบากเดือดร้อน มันเป็นอย่างไรกันแน่
มันเป็นอย่างนี้ครับ การที่คนบางคนทำความดีอย่างมาก ทำบุญทำกุศลมาโดยตลอด แต่ชีวิตก็ไม่ดีขึ้น ชีวิตตกต่ำ มีแต่ความลำบากเดือดร้อน ไม่ใช่ว่าความดีที่เขาทำนั้นไม่มีผล แต่ว่ามันให้ผลยังไม่ได้ เพราะกรรมชั่วที่เคยทำไว้ในอดีตที่มีกำลังมากกว่ากำลังให้ผลอยู่ในขณะนั้น กรรมดีที่เขาสร้างขึ้นมาใหม่ ถ้ามันไม่มีกำลังมากพอ มันก็ไม่สามารถให้ผลแทรกในขณะนั้นได้ ก็เลยยังไม่เห็นผลยังไงละครับ
ส่วนคนบางคนที่ทำแต่ความชั่ว ทำแต่เรื่องไม่ดี แต่ก็ยังมีความสุขความเจริญ ชีวิตเจริญรุ่งเรือง นั่นก็เป็นเพราะว่า ในช่วงเวลานั้น ๆ กรรมเก่าที่เป็นส่วนของบุญกุศลที่เขาได้เคยสร้างไว้ในอดีตกำลังให้ผลอยู่ กรรมชั่วที่เราเห็นว่าเขาทำไว้มากเหลือเกินในปัจจุบันนั้น แต่ถ้าเทียบกับกรรมดีที่เขาได้สร้างไว้ในอดีต มันอาจจะน้อยกว่าหลายเท่าเลยก็ได้ มันจึงยังไม่ให้ผลแทรกในขณะนั้นเช่นเดียวกัน
นี่คือลักษณะของการให้ผลของกรรม กรรมดีกับกรรมชั่วมันจะผลัดกันให้ผล ขึ้นอยู่กับว่า ในช่วงเวลานั้น ๆ กำลังของกรรมดีกับกับชั่วอันไหนแรงกว่ากัน แค่นั้นเอง
อย่างไรก็ตาม กรรมที่ทำอยู่ในปัจจุบัน ไม่ว่าจะเป็นกรรมดีหรือกรรมชั่ว มันไม่หายไปไหนหรอก มันแค่รอโอกาสที่จะให้ผล เมื่อกรรมในอดีตอ่อนกำลังลง กรรมในปัจจุบันก็จะสามารถให้ผลได้ทันที แต่ถ้ากรรมในอดีตให้ผลยังไม่หมดสักที กรรมในปัจจุบันก็จะยกยอดไปให้ผลในชาติต่อ ๆ ไปโน่นแหละ แต่ไม่ว่าจะให้ผลได้ตอนไหน มันให้ผลแน่นอน รอรับได้เลย ไม่เคยบิดพลิ้ว
เพราะฉะนั้น ทำไปเถอะครับ ความดี ไม่มีอะไรเสียหาย อย่ามัวแต่น้อยใจในโชคชะตาจนไม่มีกำลังใจสร้างคุณงามความดี สิ่งที่เราได้รับหรือได้ประสบในปัจจุบัน ล้วนแต่เป็นผลมาจากการกระทำของตัวเราเองทั้งนั้น ดังนั้นจึงมั่นใจได้ว่า ความดีที่เราทำในปัจจุบัน เมื่อถึงเวลา มันให้ผลแน่นอน กรรมชั่วก็เช่นกันนะครับ ดังนั้นต้องระวัง นอกจากจะทำความดีแล้ว ต้องละเว้นความชั่วด้วย.